รายละเอียดช่วงเวลาที่จัด
: ประเพณีเสด็จพระแข่งเรือ จัดขึ้นเนื่องในเทศกาลวันออกพรรษา
ซึ่งตรงกับวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ของทุกปี (ประมาณเดือนตุลาคม)
ประวัติความเป็นมา
งานเสด็จพระแข่งเรือ
ถือเป็นงานที่เป็นเอกลักษณ์ประจำถิ่นของชุมชนหมู่บ้านทับหลี ตำบลมะมุ
อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง สมัยก่อนเรียกว่า "งานลากพระ" ก่อนออกพรรษา
โดยเริ่มจัดครั้งแรกในปี พ.ศ.๒๔๕๐ แต่หลังจากนั้นได้หยุดจัดชั่วคราว
และได้เริ่มจัดใหม่อีกครั้งเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๓ จนถึงปัจจุบัน
ในการจัดงานประเพณีเสด็จพระแข่งเรือจะจัดในช่วงวันออกพรรษา
โดยแต่ละหมู่บ้านจะมีการตกแต่งเรือพระโดยจัดทำยอดพนม
อย่างสวยงามนำมาประกวดกัน
ต่อได้จัดให้มีการแข่งขันเรือชาวบ้านมีรางวัลมอบให้กับเรือที่ชนะการแข่งขัน
จัดขึ้นบริเวณแม่น้ำกระบุรีช่วงคอคอดกระ มีชาวไทยและชาวพม่า
เข้าร่วมงานจำนวนมากเป็นประจำทุกปี นอกจากนี้ ยังมีประเพณีการร้องเพลงเรือ
ซึ่งเป็นถือเป็นเพลงพื้นบ้านของภาคใต้ ประเภทหนึ่ง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
มีลักษณะเป็นกลอนแปด หรือกลอนสี่สองวรรค ร้องเป็นภาษาท้องถิ่น
คือภาษาพื้นเมืองสำเนียงปักษ์ใต้ ใช้ถ้อยคำคล้องจองกัน ท่วงทำนองเรียบง่าย
ฟังง่าย มีคน ร้องนำเรียกว่า แม่เพลง และลูกคู่ เป็นผู้รับ
ลูกคู่จะมีกี่คนก็ได้ ซึ่งแตกต่างจากเพลงเรือภาคกลาง
เพลงเรือในสมัยเริ่มแรก จะร้องเป็นท่วงทำนองสั้น ๆ เช่น เฮโล เฮโล สาระพา
สาว ๆ ไม่มาชักพระไม่ไป ฝ่ายหญิงจะร้องแก้ว่า เฮโล เฮโล สาระพา หนุ่ม ๆ
ไม่มาชักพระไม่ไป ต่อมาจึงได้มีวิวัฒนาการขึ้นตามลำดับ เรือลำหนึ่ง ๆ
อาจจะมีผู้หญิงทั้งลำเรือหรือผู้ชายทั้งลำ
หรือทั้งผู้หญิงผู้ชายอยู่ในเรือเดียวกัน
สำหรับบทเพลงเรือแม่เพลงจะร้องเป็นเรื่องราว เช่น
ร้องเรื่องประวัติงานเสด็จพระแข่งเรือ ประวัติการลอยกระทง ชมโฉมสตรี
เกี้ยวพาราสี ฝากรัก ตัดพ้อต่อว่า ชมความงามตามธรรมชาติ ชมเรือพระ
ชมผู้นำท้องถิ่น บทเพลงเชิญชวนคนลงเรือพาย เชิญชวนให้ละเว้นอบายมุข
การต่อต้านภัยต่าง ๆ ฯลฯ เวลาพายเรือไปเทียบคู่กับเรือลำอื่น
ก็อาจจะมีการโต้คารมกันระหว่างเรือสองลำ โดยผลัดกันร้องผลัดกันรับ
ร้องโต้ตอบ ร้องแก้กัน ทำให้คนที่พายเรือสนุกสนาน เพลิดเพลินไม่เหนื่อย
เกิดความสามัคคีกลมเกลียวกัน นอกจากนั้นการร้องเพลงเรือทำให้มีจังหวะทำนอง
ในการโยกตัวและความพร้อมเพรียงในการพายดูแล้วสวยงาม
ความมุ่งหมายของประเพณี
เป็นประเพณีที่รวมความสามัคคีของชาวอำเภอกระบุรี
ประชาชนที่ไปอยู่ในต่างถิ่นจะดินทางกลับบ้านมาร่วมงานกันอย่างล้นหลาม
สามารถสร้างความรักและผูกพันกับท้องถิ่นได้อย่างดี
ประชาชนในจังหวัดใกล้เคียงและชาวพม่าต่างสนใจมาร่วมงานเสด็จพระแข่งเรือจำนวนมากเป็นประจำทุกปี
ขั้นตอนปฏิบัติงานหรือพิธีกรรม
๑. นำเรือมาตกแต่งให้สวยงามทำเป็นเรือพระ โดยจัดทำพนมพระอยู่กลางลำเรือ
๒. อัญเชิญพระพุทธรูปไปประดิษฐานในพนมพระกลางลำเรือแล้วจัดสมโภชพระพุทธรูปกลางน้ำ
๓. หลังจากสมโภชพระพุทธรูปกลางน้ำแล้ว จะมีการแห่เรือพระไปตามลำน้ำกระบุรีซึ่งเป็นแม่น้ำกั้นพรมแดนระหว่างไทยกับพม่า
๔. การร้องเพลงเรือโดยเรือชาวบ้านมีการร้องเพลงเรือกันอย่างสนุกสนาน และมีการประกวดเพลงเรือด้วย
๕. มีการแข่งขันเรือประเภทต่างๆ เช่น ประกวดเรือยาว ประเภทสวยงาม ประเภทความคิด และประเภทตลกขบขัน
ความเชื่อที่เกี่ยวข้อง
งานประเพณีเสด็จพระแข่งเรือมีความเชื่อที่ว่าเป็นวันที่พระพุทธเจ้าได้เสด็จกลับมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
ลงมาสู่เมืองสังกัสสะในชมพูทวีป
พุทธศาสนิกชนจึงเดินทางไปรับเสด็จเป็นจำนวนมาก
ซึ่งการเดินทางที่สะดวกในสมัยนั้นคือทางน้ำ
จึงมีโอกาสได้พบปะสังสรรค์ซึ่งกันและกัน
และต่อมาจึงเกิดเป็นประเพณีแห่พระแข่งเรือขึ้น
โดยมีระยะเวลาในการจัดงานประมาณ ๓-๕ วัน มีกิจกรรมที่สำคัญคือการแห่เรือพระ
ประกอบด้วยเรือพระจากวัดต่าง ๆ ที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม
และการแข่งขันเรือพายในแม่น้ำหลังสวน
คุณค่าของประเพณี
เป็นประเพณีที่ชาวอำเภอกระบุรีจะร่วมกันตกแต่งเรืออย่างสวยงาม
เพื่อไปพายกันในแม่น้ำกระบุรี มีการประกวดเรือประเภทต่าง ๆ
งานเสด็จพระแข่งเรือจัดขึ้นมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๕๐
โดยสืบทอดประเพณีมาจากทางใต้
เ
|