เทศกาลถือศีลกินเจ
รายละเอียดช่วงเวลาที่จัด
: ประเพณีการกินเจกำหนดเอาวันตามจันทรคติ คือเริ่มต้นตั้งแต่วันขึ้น ๑ ค่ำ
ถึง ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๙ ตามปฏิทินจีนทุกๆ ปี รวม ๙ วัน ๙ คืน
มีจุดเริ่มต้นจากประเทศจีน
ประวัติความเป็นมา
เทศกาลเจ เริ่มขึ้นเมื่อประมาณ ๔๐๐ ปีมาแล้ว ตามตำนานเล่าว่า
เกิดมาในสมัยที่ชาวจีน ถูกรุกรานโดยชนชาติแมนจู ซึ่งเข้าปกครองประเทศจีน
และบังคับให้ชนชาติจีนยอมรับวัฒนธรรมของตน อาทิ การไว้ทรงผมเยี่ยงแมนจู คือ
โกนศีรษะโล้นทางด้านหน้าและไว้ผมยาวทางด้านหลัง
ซึ่งหลายคนคงจะชินตาในภาพยนตร์จีนที่นำมาฉายทางทีวี
ในสมัยนั้นมีคนจีนกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันต่อต้านชาวแมนจู
โดยใช้หลักทางธรรมเข้ามาร่วมด้วย ชาวจีนกลุ่มนี้นุ่งขาว
ห่มขาวและไม่รับประทานเนื้อสัตว์ ซึ่งมีความเชื่อว่า
การประพฤติปฏิบัติตามแนวทางนี้จะช่วยสร้างความเข้มแข็ง
ให้กับกลุ่มของตนจนสามารถต้านทานชาวแมนจูได้ คนกลุ่มนี้เรียกตัวเองว่า
"หงี่หั่วท้วง" ซึ่งแม้จะได้ต่อสู้อย่างอาจหาญ
แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถต้านทานการรุกรานของชาวแมนจูได้ เมื่อถึงวันขึ้น ๑
ค่ำ เดือน ๙ ชาวจีนที่ยังคงอยู่ภายใต้การปกครองของชาวแมนจู
จึงพากันถือศีลกินเจ เพื่อรำลึกถึงเหล่านักสู้ "หงี่หั่วท้วง"
ที่ได้ต่อสู้พลีชีพในครั้งนั้น
ความเชื่อถืออีกกระแสหนึ่งของตำนานการกินเจนั้น
เชื่อกันว่าเป็นการสักการะพระพุทธเจ้า ในอดีต ๗ พระองค์
และพระมหาโพธิสัตว์อีก ๒ พระองค์ รวมเป็น ๙ พระองค์ หรืออีก
นัยหนึ่งเรียกว่า ดาวนพเคราะห์ทั้ง ๙ ในพิธีกรรมนี้
สาธุชนจึงงดเว้นจากการฆ่าสัตว์ ตัดชีวิต หันมาบำเพ็ญศีล
โดยการตั้งปณิธานในการกินเจ งดเว้นอาหารคาว เพื่อเป็นการสมาทานศีล ๓ ประการ
คือ
๑. เว้นจากการเอาชีวิตของสัตว์มาบำรุงชีวิตของตน
๒. เว้นจากการเอาชีวิตของสัตว์มาเพิ่มเลือดของตน
๓. เว้นจากการเอาชีวิตของสัตว์มาเพิ่มเนื้อของตน
สำหรับเมืองไทยความเชื่อเรื่องการกินเจ
เป็นไปในแนวทางของการละเว้นการเอาชีวิตของสัตว์
เพื่อเป็นสักการะบูชาแก่พระพุทธเจ้า และมหาโพธิสัตว์กวนอิม
อาจเนื่องจากการแพร่หลายของกการละเว้นการกินเนื้อวัว ในกลุ่มคนที่นับถือ
"เจ้าแม่กวนอิม" การกินเจจึงเป็นอีกหนึ่งพิธีกรรมเพื่อสักการะ
ความมุ่งหมายของประเพณี
ผู้ที่กินเจอาจจะมีจุดเริ่มต้นที่แตกต่างกันไป แต่จุดประสงค์หลักสามารถแบ่งได้เป็น ๓ ประเภทดังนี้
๑. กินเพื่อสุขภาพ อาหารเจเป็นอาหารประเภทชีวจิต
เมื่อกินติดต่อกันไปช่วงเวลาหนึ่งจะทำให้ร่างกายเกิดการปรับตัวให้อยู่ในสภาวะสมดุล
สามารถขับพิษของเสียต่างๆ ออกจากร่างกาย ได้ ปรับระบบไหลเวียนโลหิต
ระบบทางเดินอาหารให้มีเสถียรภาพ
๒. กินด้วยจิตเมตตา เนื่องจากอาหารที่เรากินอยู่ในชีวิตประจำวัน
ประกอบด้วยเลือดเนื้อของสรรพสัตว์ ผู้มีจิตเมตตา
มีคุณธรรมและมีจิตสำนึกอันดีงามย่อมไม่อาจกินเลือดเนื้อของสัตว์เหล่านั้น
ซึ่งมีเลือดเนื้อ จิตใจและที่สำคัญมีความรักตัวกลัวตายเช่นเดียวกับคนเรา
๓. กินเพื่อเว้นกรรม
ผู้ที่เข้าใจอย่างลึกซึ้งย่อมตระหนักว่าการกินซึ่งอาศัยการฆ่าเพื่อเอาเลือดเนื้อผู้อื่นมาเป็นองเราเป็นการสร้างกรรม
แม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้ลงมือฆ่าเองก็ตาม การซื้อจากผู้อื่น
ก็เหมือนกับการจ้างฆ่าเพราะถ้าไม่มีคนกินก็ไม่มีคนฆ่ามาขาย
กรรมที่สร้างนี้จะติดตามสนองเราในไม่ช้าทำให้สุขภาพร่างกายอายุขัยของเราสั้นลงเป็นบ่อเกิดของโรคภัยไข้เจ็บ
เมื่อผู้หยั่งรู้เรื่องกฎแห่งกรรมนี้จึงหยุดกินหยุดฆ่าหันมารับประทานอาหารเจ
ซึ่งทำให้ร่างกายเติบโต ได้เหมือนกัน โดยไม่เห็นแก่ความอร่อยช่วงเวลาสั้นๆ
เพียงแค่อาหารผ่านลิ้นเท่านั้น
ขั้นตอนปฏิบัติงานหรือพิธีกรรม
เมื่อถึงวันที่ชาวจีนเชื่อว่าพระโพธิสัตว์ได้เสด็จมาเยี่ยมเยียนและดูแลโลกมนุษย์นั้น
ประชาชนจะแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีขาว
รับประทานอาหารที่ปราศจากเนื้อสัตว์ทุกประเภท และผักต้องห้ามอีก ๕ ชนิดคือ
กระเทียม หอม กุ้ยช่าย ต้นกระเทียม ใบยาสูบ
ต้องปฏิบัติตนอยู่ในศีลธรรมอย่างเคร่งครัด
มีพิธีบูชาองค์ประธานงานเทศกาลกินเจ และบูชาเทพเจ้าตามความเชื่อ
มีการประทับทรงของเทพเจ้าเพื่อแสดงอภินิหารได้แก่ ลุยไฟ ปีนบันไดมีด พ่นไฟ
ใช้มีดแทงส่วนต่างๆ ของร่างกายเช่น แก้ม แขน ขา ลำตัว ลิ้น ฯลฯ |